ฉันกับฬา ปลาเตโร่ (Platero and I) / 1914
เรื่องย่อ:
บทกวีสัญชาติสเปนอันเลื่องชื่อ บรรยายถึงเจ้าลา ปลาเตโร่ ลาน้อยผู้มีขนสีเงินแสนอ่อนนุ่มราวกับทำจากสำลีและมีใบหูแสนน่ารัก ปรากฏตัวในฐานะเพื่อนของผู้เขียน ปลาเตโร่เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งคู่หูร่วมเดินทางและเป็นทั้งที่ปรึกษา ความน่ารักของบทกวีนี้คือการที่มนุษย์เองไม่เข้าใจภาษาของปลาเตโร่ และปลาเตโร่เองก็ไม่เข้าใจภาษาของมนุษย์ หากทั้งสองเชื่อมร้อยกันผ่านมิตรภาพและความไว้วางใจอันงอกงามอย่างช้าๆ
เกี่ยวกับผู้เขียน:
ฆวน รามอน ฆิเมเนซ (1881-1958) นักกวีชาวสเปนผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในปี 1956 เขาเกิดและโตใกล้ๆ กับแคว้นอันดาลูซิอา เขตปกครองตนเองของสเปน และร่ำเรียนมาทางกฎหมายและศิลปะในมหาวิทยาลัยเซบัยา ก่อนจะตัดสินใจหันเหมาเป็นนักเขียนเต็มตัวหลังได้รับอิทธิพลจากงานของ รูเบ็น ดาริโอ นักกวีชาวนิการากัวและประสบความสำเร็จถึงขั้นตีพิมพ์หนังสือขายเองได้ด้วยวัยเพียง 18 ปี อย่างไรก็ตาม ปีนั้นกลับเป็นปีเดียวที่พ่อของฆิเมเนซเสียชีวิต เขาจึงโศกเศร้าและออกเดินทางไปยังฝรั่งเศสตัวคนเดียวเพื่อมองหาสิ่งใหม่ๆ ระหว่างนั้น ฆิเมเนซไม่เพียงแต่เขียนกวีได้มหาศาล หากแต่ยังพบรักกับภรรยาในอนาคตผู้เป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้ฆิเมเนซเขียนบทกวีอีโรติกตามมาภายหลัง
อย่างไรก็ตาม ฆิเมเนซมีปัญหาเรื้อรังกับการเผชิญหน้ากับโรคซึมเศร้าและถูกส่งตัวไปรักษาทั้งในโรงพยาบาลจากฝรั่งเศสและกรุงมาดริด อันเป็นต้นกำเนิดให้เขาเขียนบทกวีที่โด่งดังที่สุดในเวลาต่อมาอย่าง ฉันกับฬา ปลาเตโร่ (Platero and I, 1914) อันเป็นเสมือนบทบันทึกการเดินทางของเขาเพื่อฝ่าฟันโรคซึมเศร้าและความโดดเดี่ยวทั้งปวง
ทำไม The Curator แนะนำให้อ่าน:
กล่าวได้ว่า ฉันกับฬา ปลาเตโร่ คือบทกวีที่เล่าถึงการต่อสู้กับโรคซึมเศร้าได้อย่างน่ารักมากที่สุดเรื่องหนึ่ง มันปราศจากท่าทีขึงขัง โบยตีตัวเองหรือกระทั่งกราดเกรี้ยว ฆิเมเนซถ่ายทอดความรู้สึกของเขาผ่านบทสนทนาและความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขาเองกับลาน้อยในจินตนาการ ซึ่งแม้มันจะไม่เข้าใจภาษาที่เขาพูดเลย และเขาเองก็ไม่อาจเข้าใจสิ่งที่มันสื่อสารเช่นกัน หากแต่เพราะลาน้อยปราศจากการตัดสินเขา และอยู่ด้วยกันเพื่อจะประคับประคองผู้เขียนให้พ้นไปจากความโดดเดี่ยวโศกเศร้านี้ด้วยกันเท่านั้น นั่นเองที่ทำให้มันเป็นบทกวรที่ชวนอบอุ่นหัวใจและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการได้รับการปลอบประโลมเหลือเกิน
Be the first to review “ฉันกับฬา ปลาเตโร่ (Platero and I)”